รีวิวบุหรี่ไฟฟ้า Drag Nano 2
ตัวสินค้าและสเปคเครื่อง
บุหรี่ไฟฟ้า Drag Nano 2 แน่นอนว่าครั้งแรกที่เราเห็นเครื่องนี้มันดูแปลกตา ดูทันสมัย โดยเฉพาะสายคล้องคอที่เป็นโซ่ที่มากับตัวเครื่องด้วย แต่ช้าก่อน รุ่นนี้จะมีอะไรที่เซอไพรส์คุณยิ่งกว่าดีไซน์ที่เห็นแน่นอน เป็น 1 ในรุ่นที่ดีเท่ากับรุ่น MTL ตัวอื่นๆ ในตลาดเลย
โดยรุ่นใหม่นี้จะเป็นเวอร์ชั่นที่สองที่พัฒนามาจากรุ่นแรก Drag Nano ที่ออกมาในปี 2019 ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อก่อนซีรีย์ Drag จะเป็นเครื่องที่ปรับวัตต์ได้สูง จะเป็นกล่องปรับวัตต์ซะส่วนใหญ่ โดยจะแตกต่างกับปัจจุบันที่จะมีตัวที่เล็กลง ทั้งในรูปแบบของกล่องปรับวัตต์ แบบ Pod System และแบบ Pod Mod System Kit ก็มีครบ
ถ้าพูดถึงแบรนด์ VOOPOO นั้น ที่เริ่มต้นมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี และใน 5 ปีหลังที่ประสบความสำเร็จมากในระดับโลก โดยจากการที่มีซีรีย์ Drag ออกมารุ่นแรก ก็เป็นรุ่นที่ฮิตกันถล่มทลายทั่วเมือง
อย่างไรก็ตามเมื่อเรามาดูกันจริงๆ เมื่อปีที่แล้วก็ถือว่าเป็นปีทองของทางแบรนด์เลยทีเดียว หลังจากที่ได้ออกตัว Drag Pod Mod ออกมา ที่เป็นซีรีย์ของ PNP ก็ทำให้ยิ่งเป็นที่พูดถึงมากขึ้นไปอีก ซึ่งภาพรวมของทาง VOOPOO ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนั้น ได้มีการผลิตและจำหน่ายเครื่องไปแล้วมากกว่า 30ล้าน เครื่อง ครอบคลุมมากถึง 200 ประเทศด้วยกัน บอกเลยว่ายิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต้องไปดูกันว่า Drag Nano 2 นี้จะมีอะไรมาให้เราบ้าง
Specification
- Size: 72 x 44 x 14.2mm
- Battery: 800mAh
- Pod Material: PCTG (Plastic)
- Mod Material: Zinc Alloy + Leather (or PC)
- Output Power: 8-20W
- Output Voltage: 3.2-4.2V
- Charging: 1A USB-C
- Resistance Range: 0.1-3Ohms
Package Contents
- 1 x DRAG Nano 2 Device
- 1 x DRAG Nano pod 0.8ohm
- 1 x DRAG Nano pod 1.2ohm
- 1 x USB-C Cable
- 1 x Lanyard
- User Manual
ข้อมูลพื้นฐาน
สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า Drag Nano 2 นั้น ก็ได้พัฒนาจุดบอดในหลายๆ จุด ที่เกิดขึ้นจากรุ่นแรกที่ออกมาเมื่อปี 2019 เช่นในส่วนของหัวพอต, ระบบการปรับวัตต์, การปรับรูลมและตัวดีไซน์ที่โดดเด่นมากขึ้น พร้อมกับสายคล้องคอที่เป็นโซ่ดูอินเทรนด์เข้ากับยุคสมัยเป็นอย่างมาก
ตัวเครื่อง
สำหรับตัวเครื่องและดีไซน์ของรุ่นนี้จะโดดเด่นมาก สังเกตุจากสี และ วัสดุที่ใช้ในการผลิต ขนาดที่พกพาง่ายแต่ยังให้คุณภาพที่ครบเครื่อง บวบกับตัวชิพ Gene เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
โดยสีที่ให้มาในรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 8 สีด้วยกัน จะเป็นลายแบบหนัง 5 แบบ และเป็นสีแบบปริ้นอีก 3 แบบ โดยทุกตัวจะเป็นเครื่องสีเงิน สำหรับลายที่เป็นหนังจะมี Stamp โลโก้คำว่า Drag อยู่ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ซึ่งบอกเลยว่าสวยมาก ภาพรวมสำหรับรูปทรงและดีไซน์ของรุ่นนี้คือกินขาดอย่างไม่ต้องสงสัย
ตัวพอตและคอยล์
สำหรับหัวพอตรุ่นนี้ก็จะเป็นขนาดพื้นฐาน โดยจะเป็นหัวพอตที่มาพร้อมกับคอยล์ที่อยู่ด้านใน โดยคอยล์รุ่นนี้จะมีสองแบบให้เลือกคือ 0.8Ohm และ 1.2Ohm โดยหลังจากที่ทางเราได้ทำการเทสคอยล์ทั้งสองแบบ กับน้ำยาทั้งสัดส่วน VG50/PG50 หรือ VG70/PG30 นั้นก็จะได้ผลลัพธ์ตามนี้
0.8 Ohm เมื่อเราปรับกำลังไฟที่สูงสุด (ไฟสีขาว) และเปิดรูลมสุดเลย กลิ่นที่ได้คือชัดมาก และควันอาจจะดูจางๆ หน่อยเทียบกับการสูบจากบุหรี่จริง โดยเมื่อเราได้ลองปรับกำไฟและรูลมลงตามลำดับ ก็ยังได้ผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างกันมาก
ส่วนตัวแนะนำว่าถ้าจะปรับกำลังไฟลง ให้ปรับที่รูลมจะดีกว่า เพราะแม้เราจะปรับกำลังไฟลงไปที่ต่ำสุด (ไฟสีน้ำเงิน) แต่เปิดรูลมสุด ก็ยังให้กลิ่นที่ดีมาก ซึ่งน่าจะถูกใจสำหรับการสูบสไตล์ MTL อย่างแน่นอน
1.2 Ohm ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันคือ ให้กลิ่นและควันที่ดี โดยคำแนะนำส่วนตัวทางเราคิดว่าให้ปรับรูลมครึ่งนึง จะให้ประสิทธิภาพสูงสุด เพราะถ้าเราเปิดรูลมสุดเลยประสิทธิภาพของกลิ่นอาจจะลดลงนิดนึง แต่ในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบหรือฟิลสูบของแต่ละคน
และในส่วนอายุการใช้งานของคอยล์หลังจากที่ลองใช้ไปประมาณ 5 วันก็ยังให้กลิ่นที่ OK อยู่ก็ถือว่าเป็นอายุการใช้งานที่พอดี
รูลม
สำหรับรูลมรุ่นนี้จะอยู่ด้านบนของไฟ LED ที่แสดงผล ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ โดยจะมีปุ่มกลมๆ ให้เราสามารถปรับรูลมได้เลยโดยการเลื่อนขึ้นลงตามระดับที่เราต้องการ
แบตเตอรี่
บุหรี่ไฟฟ้า Drag Nano 2 นั้น จะเป็นรุ่นแบตในตัวขนาด 800mAh เป็นหัวชาร์จแบบ Type-C ซึ่งจะอยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง โดยจะมีไฟ LED แสดงผลของระดับแบตเตอรี่ตามลิสด้านล่างนี้
- 0 - 33% = ไฟขึ้น 1 ขีด
- 33 - 66% = ไฟขึ้น 2 ขีด
- 66% - 100% = ไฟขึ้น 3 ขีด
การเติมน้ำยา
สำหรับวิธีการเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้น รุ่นนี้สามารถทำได้อย่างง่ายโดยที่ไม่ต้องถอดหัวพอตออกมา เพียงแค่ดึงตัวปากสูบสีดำออกมา ก็จะเห็นช่องเติมน้ำยาเลย โดยที่รูเติมน้ำยานั้นจะมีซิลิโคนสีดำอยู่ จากนั้นก็ปิดปากสูบกลับเข้าไปก็เสร็จเรียบร้อย
มีรั่วมั้ย?
อาจจะพูดไม่ได้ 100% ว่าจะไม่มีรั่วซึมเลย แต่หลังจากการที่ได้ลองเทส และใช้งานดูก็พบว่าการรั่วซึมนั้นมีน้อยมาก จนแทบไม่ป็นปัญหาเลยสำหรับในส่วนของการรั่วซึม ถ้าเทียบกับหลายๆ รุ่นที่เจอมา
การใช้งาน
ในส่วนของการใช้งานก็ไม่ซับซ้อน จะเหมือนเครื่องพอตทั่วไป โดยเพียงแค่กดปุ่มปล่อยไฟ 5 ครั้งเพื่อเปิด / ปิด ตัวเครื่อง และรุ่นนี้จะสามารถปรับระดับไฟได้ตามที่บอกไปก่อนหน้านี้ โดยกดปุ่ม 3 ครั้ง และรอประมาณ 1.5 วินาที เพื่อปรับระดับไฟได้ตามที่ต้องการ
ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ระดับด้วยกันตามนี้
- น้ำเงิน = เบาสุด
- สีเขียว = ปานกลาง
- สีขาว = แรงสุด
โดยระบบสูบจะเป็นแบบ Auto Draw (สูบโดยไม่ต้องกดปุ่ม) และจะมีระบบปรับรูลมให้ด้วย โดยสามารถเลื่อนขึ้นลงเพื่อปรับได้เลย
ข้อดี
- ชาร์จไวไม่ถึง 1 ชม
- ระบบรูลมที่หลากหลาย
- ให้กลิ่นที่ดี
- ไม่มีการรั่วซึม
ข้อเสีย
- ตัวปากสูบน่าจะดีไซน์ได้ดีกว่านี้หน่อย
- การปรับระดับไฟอาจจะไม่สมูทเท่าไหร่ (ถ้าใช้บ่อยๆ)
สรุป
สำหรับภาพรวมบุหรี่ไฟฟ้า Drag Nano 2 นั้นก็เป็นไปตามคาดที่หลายๆ คนคิดไว้ ถ้าเปรียบเทียบกับ Original Drag Nano ที่ออกมารุ่นแรกและได้รับความนิยมขนาดไหน รุ่นนี้ก็ถือว่าไม่ต่างกันมากนัก ทั้งในแง่ของรูปทรง ดีไซน์ การใช้งาน ระบบรูลมต่างๆ ที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ก็ยังมีการพัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อนเช่นกัน ข้อติชมและคาดหวังเพียงเล็กน้อยสำหรับรุ่นนี้คือในส่วนของหัวพอตที่ถ้าพัฒนาทั้งในแง่ของขนาด การใช้งานให้ดูสะดวกขึ้น ก็น่าจะทำให้ภาพรวมนั้นดูดีขึ้นไปอีก แต่โดยรวมแล้วที่เราเห็น Drag Nano 2 นั้นก็ถือว่าเป็นอีก 1 ตัวเลือกสำหรับผู้สูบเริ่มต้นที่น่าจะถูกใจได้ไม่ยาก
