รีวิวบุหรี่ไฟฟ้า Drag X/S PNP Kit
ตัวสินค้าและสเปคเครื่อง
ต้องขอบอกเลยว่าทางเรารู้สึกตื่นเต้นมากในระหว่างที่จะเขียนรีวิวนี้ เพราะในส่วนของซีรีย์ Drag X/S ที่มีมานั้นถือเป็นบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นนึงที่ดีที่สุดที่มีมาเลย
สำหรับซีรีย์ Drag X/S นั้น ถือเป็นรุ่นที่มาเขย่าวงการเครื่อง Pod Mod ให้ไปอีกระดับ ด้วยตัวเครื่อง รูปทรง และภาพรวมนั้นดูเหมือนเป็นกล่องปรับวัตต์ปกติ แต่จะมีความแตกต่างที่หัวพอตที่ใช้งานนั่นเอง
ซึ่งมาถึงจุดที่เราจะสังเกตุได้ว่าทางแบรนด์ Voopoo ได้ใช้หัวพอต Pnp แทนหัวแท้งค์ และทุกรุ่นหลังจากนั้นของทางแบรนด์ก็จะใช้เป็นหัวพอต Pnp หมดเลย บวกกับด้วย feedback ที่ไปในด้านดี บอกเป็นเสียงเดียวกันทั้งในเรื่องของกลิ่นและควันที่ได้ โดยมากไปกว่านั้นทางแบรนด์ก็ยังเพิ่มลูกเล่นของคอยล์ที่ใช้กับหัวพอตชนิดนี้ ให้มีความหลากหลายมากขึ้นไปอีก เราจะเห็นได้ทั้งหัวแบบ RTA หรือ MTL ก็มีครบทุกแบบ
และเมื่อล่าสุดที่ทางแบรนด์ได้หัวพอตตัวใหม่ Tpp ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่แพ้กับตัว Pnp เลย โดยภาพรวมจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่หัวคอยล์จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพในหลายๆ แง่ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
Specification
- Size: 32.5 x 28 x 127.5 mm
- E-liquid Capacity: 5ml
- Power Output: 5-80W
- Material: Alloy, Leather, PCTG
- Output voltage: 3.2~4.2V
- Resistance Range: 0.1~3ohm
- Battery: 1x 18650 (Not Included)
Package Contents
- Size: 33 x 28 x 119.5 mm
- E-liquid Capacity: 5ml
- Power Output: 5-60W
- Material: Alloy, Leather, PCTG
- Output voltage: 3.2~4.2V
- Resistance Range: 0.1~3ohm
- Battery: built in 2500mAh
ข้อมูลพื้นฐาน
บุหรี่ไฟฟ้า Drag X/S Pnp Kit นั้น ก็จะเหมือนกับ Drag เวอร์ชั่นแรกที่ออกมาคือ ตัว X จะใช้ถ่าน 1 ก้อน และ S จะเป็นแบตในตัว โดยรุ่นนี้ S จะมีแบตในตัวขนาด 2500mAh และขนาดของตัวเครื่องก็จะเล็กกว่าตัว X อยู่นิดนึง ซึ่งก็สมเหตุสมผลสำหรับตัว X ที่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่านิดหน่อย เพราะจะได้มี space เผื่อสำหรับช่องใส่ถ่านด้วย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เราไปดูกันต่อได้เลยว่ามีอะไรเพิ่มเติมและพัฒนาไปอีกบ้าง
ตัวเครื่อง
สำหรับตัวเครื่องและดีไซน์ของรุ่นนี้ก็จะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้วสำหรับซีรีย์ Drag แต่ถ้ามาเจาะดูรายละเอียด ก็จะมีหลายๆ ส่วนที่พัฒนาและเปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนพอสมควร ในส่วนของหน้าจอแสดงผลจะมี Logo ของ Drag อยู่ทางด้านซ้าย และถัดไปด้านขวาจะเป็นช่องที่บอกระดับของแบตเตอรี่ในเครื่อง ซึ่งในรุ่นนี้จะมีไม่มี % บอก สำหรับปริมาณในการใช้ในโหมดต่างๆ ส่วนตัวแล้วคิดว่า ถ้าบอกเป็น % น่าจะดูดีกว่า
ถัดลงมาจะเป็นในส่วนของการตั้งค่าไฟ ซึ่งตัวฟร้อนจะใหญ่ เห็นได้ชัดเจน และด้านข้างก็จะแสดงถึงโหมดต่างๆ ที่ผู้ใช้เลือกสำหรับการใช้งาน โดยตัว R จะหมายถึงโหมด RBA และตัว S จะหมายถึง Smart Mode
ส่วนตรงกลางของเครื่องจะเป็นระบบที่เราใช้สำหรับการสูบ A&P โดยตัว A จะหมายถึง Auto Draw คือสูบแบบไม่ต้องกดปุ่ม และตัว P คือปิดตัวระบบ Auto Draw และถัดไปทางด้านขวาก็จะมีค่าโอมห์ของคอยล์ที่ใช้ และกำลังไฟ (วัตต์) ที่เราสามารถเลือกปรับได้ตามต้องการ
และส่วนล่างสุดของเครื่องจะก็มีบอกจำนวน Puff ที่เราสูบไป โดยตัวเครื่องจะนับตามเวลาที่เราสูบ
ตัวพอตและคอยล์
สำหรับหัวพอตรุ่นนี้จะเป็นแบบแม่เหล็ก ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าหัวแท้งค์นี้เองที่ทำให้ทางแบรนด์ยกระดับเครื่อง Pod Mod ไปอีกขั้นนึง ด้วยตัวแม่เหล็กถึง 3 ตัวที่ใช้ยึดระหว่างตัวเครื่องกับตัวพอตให้ฟิลเหมือนเราใช้หัวอะตอมอยู่จริงๆ มีแผ่นเหล็กที่อยู่รอบๆ ขนาด 6mm บวกกับระบบแม่เหล็กที่แน่นหนา ทำให้ใช้งานง่ายและแข็งแรงทนทาน ซึ่งตรงกลางก็จะมีรูที่ทำให้คอยล์นั้นเชื่อมต่อกับหัวแท้งค์ได้อย่างดี ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของกลิ่นและควันเข้าไปอีก
มาในส่วนของตัวคอยล์ Pnp ซึ่งทางเราไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้ว Pnp นั้นมาจากอะไร แต่ที่หาข้อมูลมาอาจจะหมายถึง Push N' Pull โดยคอยล์รุ่นนี้จะมีให้เลือกมากถึง 10 แบบด้วยกัน ซึ่งมีทั้งประเภทที่เหมาะสำหรับน้ำยาฟรีเบส และ น้ำยาซอลนิค โดยสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับคอยล์ชนิดต่างๆ กำลังไฟที่ใช้ในแต่ละตัว หรือตัวไหนเหมาะกับน้ำยาประเภทไหนได้ ตามตารางด้านล่างนี้ได้เลย
คำเตือนเพียงเล็กน้อย! เมื่อเราดูที่ตัวพอต เราจะเห็นเส้นระหว่างตัวคอยล์กับตัวปากสูบ โดยถ้าเราถือตัวเครื่องพลิกไปมา ตัวน้ำยาที่ผ่านเส้นระหว่างนั้นจะรั่วออกมา เมื่อเวลาที่เราเปลี่ยนตัวคอยล์
รูลม
สำหรับรูลมรุ่นนี้มีระบบ Airflow ที่ดีมาก โดยจะมี 2 รู อยู่ที่หัวพอตด้านบน สำหรับการปิดและเปิด โดยเมื่อเราหมุนไปทางซ้ายคือปิดรูลมทั้งหมด และเมื่อเราหมุนไปทางขวาคือเปิดรูลมทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่ทางเราได้สำหรับเทสดู ถ้าเราเปิดรูลมไว้ฟิลที่ได้จะค่อนข้างโล่ง แต่จะไม่แน่นเท่าเวลาเราปิดรูลม ซึ่งจะให้ฟิลที่ดีมากโดยเฉพาะการสูบสไตล์ DTL
แบตเตอรี่
อย่างที่เราบอกไปตอนต้นในส่วนของแบตเตอรี่ โดย ตัว X จะใช้ถ่าน 1 ก้อน ซึ่งจะปรับวัตต์ได้สูงสุดที่ 80w ในขณะที่ตัว S จะเป็นแบตในตัวขนาด 2500mAh จะปรับวัตต์ได้สูงสุดที่ 60w โดยสำหรับตัว S จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
การเติมน้ำยา
สำหรับวิธีการเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้น สามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องถอดหัวพอตออกมาเลย โดยจะมีซิลิโคนสีดำอยู่ด้านบนของหัวพอตที่เราสามารถเปิดออกและเติมน้ำยาลงไปได้เลยเป็นอันเสร็จเรียบร้อย สะดวก รวดเร็ว ง่ายดาย
มีรั่วมั้ย?
ถ้าใครเคยใช้ Drag มาก่อนจะทราบดีว่าหัวพอตรุ่นนี้จะมีการรั่วซึมอยู่นิดหน่อย แต่ก้เป็นปริมาณที่น้อยมาก ถ้าเทียบกับหลายๆ รุ่นในตลาดที่มี
การใช้งาน
สำหรับการใช้งานของ Drag S/X Pnp Kit นั้น คือรุ่นนี้จะมีโหมดให้เลือกเป็นโหมด Smart กับ RBA โดย Smart นั้นจะออกแบบมาให้ใช้กับคอยล์ตระกูล Pnp ทั้งหมด ซึ่งจะปรับไฟได้ตามค่าโอมห์ของคอยล์แต่ละรุ่น ซึ่งมีให้เลือกเยอะมาก ในขณะที่ โหมด RBA จะใช้เฉพาะกับคอยล์แบบ RBA ซึ่งฟิลที่ได้ก็จะแตกต่างกัน สำหรับการใช้ปุ่มต่างๆ ของรุ่นนี้ก็จะมีวิธีการปรับตามนี้
- กดปุ่ม 5 ครั้งเพื่อเปิด / ปิด ตัวเครื่อง
- กดปุ่ม 1 ครั้งพร้อมกับปุ่ม ( - ) เพื่อล้างค่าจำนวนพัฟที่สูบ
- กดปุ่ม 1 ครั้งพร้อมกับปุ่ม ( + ) เพื่อล้อค หรือ ปลดล้อคตัวเครื่อง
- กดปุ่ม 3 ครั้ง เพื่อเปลี่ยนโหมดการใช้งาน
ข้อดี
- ให้กลิ่นและควันที่ดี
- หัวพ้อตที่แข็งแรงทนทาน
- ระบบปรับรูลมที่ดี
- สามารถเติมน้ำยาจากด้านบนได้เลย
- ใช้งานง่าย
- ดีไซน์ดูสวยงาม
ข้อเสีย
- ยังไม่สามารถใช้แบตเตอรี่ขนาด 21700 ได้
- รายละเอียดของเมนูยังไม่ค่อยชัดเจน
- ไม่มีแท้งค์แบบ MTL มาให้เลย (ต้องซื้อแยก)
สรุป
อาจจะดูผิดคาดไปนิดนึงสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า Drag S/X Pnp Kit รุ่นใหม่นี้ แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิดกันนะ ที่หมายถึงในส่วนนี้คือถ้าเรามองจากตั้งแต่รุ่นแรกมาจนถึงรุ่นนี้ จะเห็นว่าในทุกๆ แง่นั้นได้พัฒนามามากแล้ว เทียบกับหลายๆ รุ่นในตลาด ส่วนที่ดีมากที่เห็นได้ชัดสำหรับรุ่นใหม่นี้คือการเติมน้ำยา ที่เราสามารถเติมน้ำยาจากด้านบนหัวพอตได้เลย โดยไม่ต้องถอดตัวหัวพอตออกมา ซึ่งถือว่าสะดวกมาก ละก็ตัวดีไซน์ ลวดลายที่มีสีสันเพิ่มเติมกว่ารุ่นก่อน แถมตัวคอยล์ก็ทราบกันอยู่แล้วว่ามีหลายชนิดให้เลือก เรียกว่าครบเครื่อง จะสูบแบบไหนสไตล์ไหนก็มีให้เลือกหมด
ในส่วนที่เราคาดหวังนิดนึงอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าถ้าตัว X สามารถรองรับแบตเตอรี่ขนาด 21700 ได้ จะทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ภาพรวมแล้วก็ถือว่าไม่ผิดหวังสำหรับ Drag X/S ที่เป็นตำนานออกมาตั้งแต่รุ่นแรกยันรุ่นนี้ ก็ยังได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น หวังว่าทุกคนเมื่อได้ใช้ตัวนี้แล้วจะมีประสบการณ์ที่ดีกับมันเช่นกัน