รีวิวบุหรี่ไฟฟ้า Voopoo DRAG X & S
ตัวสินค้าและสเปคเครื่อง
Voopoo ได้กลับมาทำวงการบุหรี่ไฟฟ้า pod สั่นสะเทือนอีกครั้งกับโปรดักตัวใหม่ DRAG S และ X โดยบุหรี่ไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนี้เป็นบุหรี่ไฟฟ้าแบบ AIO ที่สามารถใช้กับคอยล์ PnP ได้เช่นเดียวกับบุหรี่ไฟฟ้ารุ่น Vinci ที่เป็นรุ่นที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาแล้ว และดูเหมือนว่าทาง Voopoo ออกรุ่น Drag S และ X มาก็เพื่อสานต่อความสำเร็จจากรุ่นพี่ Vinci และ Vinci X นั้นเอง
บุหรี่ไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับชิพ GENE-TT เป็นระบบควบคุมตัวเครื่อง พอตสามารถจุน้ำยาได้ 4.5mL และสามารถชาร์จไฟผ่านทางพอร์ต USB Type-C
รุ่น S จะมีแบตเตอรี่ในตัวที่มีความจุ 2600 mAh ในขณะที่รุ่น X จะใช้ถ่านบุหรี่ไฟฟ้าขนาด 18650 1 ก้อน ทำให้ราคาของรุ่น X จะถูกว่ารุ่น S อยู่นิดหน่อย แต่นอกเหนือจากนั้น บุหรี่ไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนี้มีระบบการทำงานเหมือนกันทั้งหมด
Specification
- Name: DRAG S / DRAG X
- Dimensions: DRAG S (87 mm x 33 mm x 28 mm) / DRAG X (95 mm x 32.5 mm x 28 mm)
- Material: Alloy and leather
- Output power: DRAG S (5-60 watts) / DRAG X (5-80 watts)
- Output voltage: 3.2-4.2 volts
- Resistance: 0.1-3.0 ohms
- Battery: DRAG S (2600 mAh internal) / DRAG X (single 18650)
- Pod capacity: 4.5 mL
- Material: PCTG
Package Contents
- 1 x Device
- 1 x PnP pod
- 2 x Coils (DRAG S: 0.2 ohm and 0.3 ohm / DRAG X: 0.15 ohm and 0.3 ohm)
- 1 x Type-C cable
- 1 x User manual
วัสดุการสร้างและดีไซน์
รูปภาพจาก vaping360.com
ในด้านการออกแบบและดีไซน์ บอกได้คำเดียวว่าโคตรจะสวย ซึ่งถ้าบอกว่าเป็น pod mod ที่สวยที่สุดตั้งแต่ร้านเคยรีวิวมาเลยก็ว่าได้ งานหนังที่มีความระเอียดกับเนื้อผ้าที่ทำมาให้เข้ากับตัวเครื่องที่ทำให้นึกถึง Aegis ของทางค่าย Geekvape
ไม่รุ้ว่าทาง Voopoo ใช้หนังแท้กับตัวสินค้ารึป่าวแต่ว่าความรู้สึกเหมือนหนังแท้มากๆ
หน้าจอมีขนาดใหญ่ แสดงสีและความสว่างได้ดี สามารถอ่านข้อมูลได้แม้อยู่กลางแดด ตัวพอตใช้วัสดุ PCTG ที่มีความทืบแสงเล็กน้อยทำให้สามารถมองเห็นปริมาณน้ำยาภายในพอตได้ง่าย และยังมีความสวยงามเข้ากับตัวเครื่องอีกด้วย ขนาดตัวปรับรูลมยังออกแบบมาได้สวยงามและยังสามารถปรับรูลมได้มากกว่ารุ่น Vinci อีกตังหาก
ตัวเครื่อง Drag S และ X มีขนาดเล็กกว่ารุ่นพี่ Vinci อยู่นิดหน่อยและให้ความรู่สึกกระชับมือมากกว่าเนื่องมาจากตัวเครื่องมีความโค้งมนเข้ากับมือ
Drag X มีความสูงมากกว่าว่ารุ่น S อยู่ประมาณ 8 มม. ส่วนด้านของน้ำหนัก ตัว X จะมีน้ำหนักมากกว่า S ประมาณ 165 กรัม เนื่องจากมีแบตในตัว แต่รุ่น S จะมีฝาเปิดเพื่อใส่ถ่านขนาด 18650 ซึ่งตัวฝาก็ออกแบบมาได้สวยงาม ทนทานดี
ตัวพอตน้ำยามีคุณภาพและให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมากกว่าตัว Vinci เยอะ และแม่เหล็กก็ยึดเกาะกับตัวเครื่องได้ดี
การใช้งาน
รูปภาพจาก vaping360.com
ชิพ GENE.TT เป็นรุ่นอัพเดทจาก GENE.AI ที่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นเครือ Vinci ที่มีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดก็คือระบบนับคะแนนที่แสดงผลบนหน้าจอจะใช้พื้นที่ประมาณครึ่งนึงของหน้าจอ โดยมันจะคำนวนผลบางอย่างทุกครั้งที่มีการสูบและนำไปรวมเป็นคะแนนแล้วมาบอกผู้ใช้ว่าได้คะแนนเท่าไหร่ ก็ดูเป็นลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามา แต่ถ้าพูดตามตรงก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่
หมายเหตุ: ทาง Voopoo แจ้งมาว่าโหมดนับคะแนนนี้จะไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แรก ผู้ใช้จะต้องทำการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อยืนยันอายุก่อนถึงจะใช้ได้
นอกเหนือจากนั้นก็มีข้อมูลพื้นฐานเช่นค่าวัตต์, แรงต้าน และค่าแบตเตอรี่ ที่โชว์บอกบนหน้าจอเหมือนรุ่นอื่นๆ การใช้งานสามารถทำได้ดังนี้
- กดปุ่มยิงไฟห้าครั้งเพื่อเปิดหรือปิดเครื่อง
- กดสามครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมดระหว่าง "smart" กับ "RBA" โหมดในรุ่น X (รุ่น S จะสามารถกดสามครั้งเพื่อเปลี่ยนโหมดการจ่ายไฟแบบกดยิงไฟหรือ auto-draw ก็ได้)
- กด ขึ้น/ลง เพื่อปรับวัตต์
- กดปุ่มขึ้นกับลงพร้อมกันเพื่อเข้าสู่หน้าจอ PUFF และกดสองปุ่มค้างอีกรอบเพื่อออกจากหน้านั้นๆ
- กดปุ่มยิงไฟในขณะที่อยู่ในหน้าจอ PUFF เพื่อดูข้อมูลของชิพ
- กดปุ่มยิงไฟและปุ่มลูกศรลงพร้อมกันเพื่อทำการรีเซ็ตจำนวนการสูบในแต่ละวัน
- กดปุ่มยิงไฟและปุ่มลูกศรขึ้นพร้อมกันเพื่อล็อคเครื่อง
- กดปุ่มทั้งสามปุ่มพร้อมกันเพื่อเข้าสู่หน้าจอตั้งค่าเวลา
นอกเหนือจากโหมดนับคะแนนที่เราไม่สามารถจะปรับแต่งอะไรได้อยู่แล้ว ระบบการทำงานทุกอย่างก็เหมือนกับตัว Vinci โดยการนับจำนวนการสูบจะถูกรีเซ็ททุกๆ 14 วัน
รูปภาพจาก vaping360.com
การเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสามารถเติมได้จากทางด้านล่างของตัวพอตโดยขนาดของรูเติมน้ำยามีความกว้างพอสำหรับการใช้ dropper เลยทีเดียว
วิธีเปลี่ยนคอยล์ก็ทำได้โดยง่ายแค่ดึงออกแล้วเสียบตัวใหม่เข้าไป ไม่ต้องหมุนเข้าหมุนออกให้ยุ่งยาก และตัวเครื่องจะทำการตั้งค่าวัตต์ให้อัตโนมัติสำหรับคอยล์ตัวใหม่
รุ่น S สามารถใช้ระบบการจ่ายควันแบบกดหรือแบบ auto-draw ก็ได้แล้วแต่เราจะเลือก แต่รุ่น X จะไม่รองรับระบบ auto-draw ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะรุ่น X ใช้ถ่านแยกตังหากจึงทำให้ไม่สามารถใช้ auto-draw ได้ ซึ่งก็ไม่ใช้เรื่องใหญ่อะไรเพราะปกติก็ไม่ค่อยมีคนใช้ auto-draw กับ pod mod อยู่แล้ว
รูปภาพจาก vaping360.com
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับคอยล์ 0.3ohm ในขณะที่ DRAG X จะให้ตัว 0.15ohm mesh coil สำหรับ 60-80 วัตต์ ส่วน DRAG S จะให้ตัว 0.2ohm mesh coil สำหรับ 40-60 วัตต์มาแทน
ตัว 0.15ohm สามารถทำกลิ่นและควันได้ดีในช่วง 60-65 วัตต์กับรูลมที่เปิดกว้าง ¾ ส่วน
ทางร้านแนะนำให้ใช้ถ่านขนาด 25 amp เช่น VTC5As และไม่ควรใช้วัตต์เกิน 70 เมื่อใช้คอยล์ตัวนี้เพราะอาจจะทำให้คอยล์ไหม้ได้
สำหรับตัว 0.2ohm ก็ทำกลิ่นได้ดีไม่แพ้กัน แต่ควันจะน้อยกว่าตัว 0.15ohm อยู่นิดหน่อย และควันจะไม่ร้อนเท่ากับตัว 0.15 แต่หากปิดช่องลมลงครึ่งนึงก็จะทำให้ได้ความรู้สึกใกล้เคียงกัน
ด้านอายุการใช้งานของคอยล์ก็ใช้ได้นานพอสมควร ทางร้านเปลี่ยนน้ำยาไปประมาณ 7 รอบ คอยล์ก็ยังใช้งานได้ปกติดี
รูปภาพจาก vaping360.com
ทางร้านไม่ได้ทำการลองการสูบแบบ MTL เนื่องจากไม่มีคอลย์ 1.0ohm แต่ดูเหมือนว่าระบบรูลมแบบใหม่ที่มากับตัวเครื่องไม่น่าจะเหมาะกับการสูบแบบ MTL เท่าไหร่นัก
สุดท้ายนี้ทาง Voopoo บอกว่าตัว adapter 510 กำลังจะออกตามมาในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้ Drag X และ S สามารถใช้อะตอมรุ่นอื่นได้จำพวกอะตอม subohm ขนาด 24mm รุ่นอื่นๆ หรือจะไปใช้ tank สำหรับ MTL ก็ได้แล้วแต่คนชอบ
แบตเตอรี่และอายุการใช้งาน
รูปภาพจาก vaping360.com
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของตัว DRAG X ขึ้นอยู่กับรุ่นของถ่านที่เราเลือกใช้ แต่ทางร้านได้ลองกับ VTC5A ในระดับ 60-65 วัตต์ กับคอยล์ 0.2ohm ก็สามารถสูบได้ประมาณ 2 พอต หรือ 8ml ก่อนแบตจะหมด
ด้านความไวในการชาร์จ สำหรับตัว S ทางร้านแนะนำให้ใช้เครื่องชาร์จถ่านบุหรี่ไฟฟ้าแยกชาร์จต่างหากจะดีกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟรั่วและทำให้เครื่องเสียได้ แต่ร้านได้ลองชาร์จผ่านตัวเครื่องดูเพื่อทดสอบเวลาก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ในการชาร์จต่อ 1 ครั้ง ซึ่งถือว่าไวพอสมควรเมื่อเทียบกับความจุแบตที่ 2600mAh ที่ตัวเครื่องให้มา
ทั้งสองรุ่นสามารถชาร์จผ่านสาย USB Type-C แต่ทั้งคู่ไม่รองรับระบบ pass-thru จึงทำให้ไม่สามารถสูบไปในขณะที่ชาร์จได้
ข้อดี
- คุณภาพไม่มีที่ติ
- ตัวเครื่องสวยมากๆ
- ส่วนของหนังให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม
- พอตมีขนาดใหญ่
- รูเติมน้ำยามีขนาดใหญ่
- แม่เหล็กแข็งแรง ยึดได้ดีมาก
- หน้าจอมีขนาดใหญ่และสว่าง
- สามารถปรับรูลมได้เต็ม
- ไม่มีการซึมของน้ำยาเลย
- ใช้งานง่าย
- คอยล์ที่แถมมาทั้งสองตัวสามารถทำกลิ่นและควันได้ดีเยี่ยม
- คอยล์ 0.15-ohm สามารถใช้กับวัตต์ต่ำๆได้
- คอนล์มีอายุการใช้งานที่นาน
- มีคอยล์หลายแบบให้เลือกใช้
- จะมีตัว adapter 510 มาให้ใช้ในอนาคต
- DRAG X ใช้ถ่าน 18650 ได้
- ความจุแบตเยอะในตัว DRAG S (2600 mAh)
- ใช้ USB Type-C
- DRAG S ใช้เวลาชาร์จไว (1 ชั่วโมง 20 นาที)
ข้อเสีย
- โหมดนับคะแนนดูไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไหร่แถมยังกินเนื้อที่หน้าจอไปครึ่งนึง
- DRAG X จะรีเซ็ตเวลาเครื่องเมื่อถอดถ่านออก
- ไม่รองรับระบบ pass-thru
- บางคนอาจจะไม่ชอบโลโก้ “DRAG”
- ปากสูบร้อนนิดหน่อยเมื่อสูบนานๆ
สรุป
หากลูกค้าไม่มั่นใจว่าจะเลือกซื้อตัวไหนดีระหว่าง X กับ S ทางร้านจึงสรุปออกมาสั้นๆให้ฟังว่า ตัว X จะมีความยาวเครื่องมากกว่าและไม่สามารถใช้โหมด auto-draw ได้ แต่จะสามารถใช้ถ่านแยกขนาด 18650 และสามารถจ่ายไฟได้มากกว่ารุ่น S 20 วัตต์ (แต่ทางร้านก็ไม่แนะนำให้ใช้วัตต์สูงขนาดนั้นอยู่ดี) และ ทุกครั้งที่ถอดถ่านออกตัวเครื่องจะทำการรีเซ็ตเวลาด้วย บางคนอาจจะรำคาญในจุดๆนี้ นอกเหนือจากพวกนี้ ทั้งสองเครื่องก็ทำงานเหมือนกันหมด
หากลูกค้าท่านใดชอบเครื่องที่เล็กกระทัดรัดก็น่าจะเหมาะกับรุ่น S มากกว่า แต่ถ้าใครไม่ได้ซีเรียสเรื่องขนาดมาก แต่ให้ความสำคัญกับการใช้งานมากกว่า ก็แนะนำให้ซื้อตัว X เพราะสามารถใช้ถ่าน 18650 แยกได้และสามารถจ่ายไฟได้มากกว่าเผื่อว่าใครสนใจจะซื้อ adapter 510 ไปเพื่อใช้กับอะตอมรุ่นอื่นๆที่ต้องการค่าวัตต์สูงๆในอนาคต